ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม
(Behaviorism)
ขวัญจิต ภิญโญชีพ ได้รวบรวมไว้ว่า
กลุ่มนี้มีความคิดว่า การเรียนรู้เกิดจากการที่ อินทรีย์ปะทะสิ่งเร้า (Stimulus)
แล้วทำการตอบสนอง (Response) สิ่งเร้า
จากนั้นคอยดูผลที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการตอบสนองสิ่งเร้านั้น
หากผลเป็นที่พอใจต่อไปหากประสบกับสิ่งเร้าแบบนี้อีก ก็จะทำการตอบสนองเช่นเดิม
หากทำซ้ำๆกันก็จะกลายเป็นนิสัย หากผลไม่เป็นที่พอใจ ก็จะเปลี่ยนวิธีการตอบสนอง
ยกตัวอย่างเช่น เด็กเล็กไม่เคยพบเทียนที่จุดสว่างมาก่อน(S) จึงเอื้อมมาจับ(R)
ผลคือร้อนไม่เป็นที่พอใจ ครั้งต่อไปเมื่อพบเทียนจุดก็จะไม่จับอีก
คือเกิดการเรียนรู้จึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น
ลูกกลับจากโรงเรียนมาเห็นแม่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็เข้าช่วย แม่ยิ้ม
กล่าวคำชมเชยและหาขนมให้รับประทาน การยิ้ม คำชมเชย และการได้ขนมเป็นรางวัล
เป็นแรงเสริม Reinforcer ที่จะส่งผลให้เด็กกระทำพฤติกรรมนั้นซ้ำอีก
หากกระทำซ้ำบ่อยๆ ก็จะเกิดเป็นนิสัย
ทิศนา แขมมณี
(2547: 50-59) ได้รวบรวมไว้ว่า
นักคิดในกลุ่มนี้มองธรรมชาติของมนุษย์ในลักษณะที่เป็นกลางคือ ไม่ดีไม่เลว (neutral-active)
การกระทำต่างๆ ของมนุษย์เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอกพฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า
(stimulus-response) การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง
กลุ่มพฤติกรรมนิยมให้ความสนใจกับ “พฤติกรรม” มาก
เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด สามารถวัดได้และทดสอบได้ ทฤษฎีการเรียนรู้ในกลุ่มนี้
ประกอบด้วยแนวคิดสำคัญๆ 3 แนวด้วยกันคือ
1. ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ (Thorndike’s
Connectionism) นักทฤษฎีคนสำคัญคือ ธอร์นไดค์ (ค.ศ.1814-1949)
2. ทฤษฎีการวางเงื่อนไข (Conditioning
Theory)
2.1 แบบอัตโนมัติ (Classical
Conditioning) ของพาฟลอฟ (Pavlov ค.ศ.1849-1936)
และวัตสัน (Watson ค.ศ.1878-1958)
2.2 แบบต่อเนื่อง (Contiguous
Conditioning) ของกัทธรี (Guthrie ค.ศ.1886-1959)
2.3 แบบวางเงื่อนไข (Operant
Conditioning) ของสกินเนอร์ (Skinner ค.ศ.1904-1990)
3. ทฤษฎีการเรียนรู้ของฮัลล์ (Hull’s
Systematic Behavior Thoery)
สุรางค์ โค้วตระกูล (2545) นักคิด
นักจิตวิทยาในกลุ่มพฤติกรรมนิยมมองธรรมชาติของมนุษย์ในลักษณะเป็นกลาง คือ
ไม่ดีไม่เลว (neutral-passive) การกระทำต่าง ๆ
เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก
พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า (stimulus-response) การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง
กลุ่มพฤติกรรมนิยมให้ความสำคัญกับ “พฤติกรรม”มาก เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้
สามารถวัดและทดสอบได้
สรุป
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism) เป็นการเรียนรู้เกิดจากการที่
อินทรีย์ปะทะสิ่งเร้า (Stimulus) แล้วทำการตอบสนอง (Response)
สิ่งเร้า หากผลไม่เป็นที่พอใจ ก็จะเปลี่ยนวิธีการตอบสนองแต่หากเป็นที่น่าพอใจ
จะเป็นแรงเสริม Reinforcer ที่จะส่งผลให้กระทำพฤติกรรมนั้นซ้ำอีก
พฤติกรรมเป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ สามารถวัดและทดสอบได้ กลุ่มพฤติกรรมนิยมให้ความสำคัญกับ
“พฤติกรรม”มาก
ที่มา
ขวัญจิต ภิญโญชีพ. (2534).
หลักการและทฤษฎีเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา.
กรุงเทพฯ :
วิทยาลัยครูจันทรเกษม.
ทิศนา แขมมณี. (2547).
ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพ.(พิมพ์ครั้งที่
3). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรางค์ โคว้ตระกูล. (2545).
จิตวิทยาการศึกษา. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย :
กรุงเทพมหานคร.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น